คงความเป็นตัวตนไว้: เรื่องราวของ Reaver

 นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้วที่พวกเรา Sean และ Preeti จากทีมคอนเทนต์พรีเมียมได้มาเขียนบทความเกี่ยวกับไอเทมของตกแต่งของเราไปกัน (ว่าแต่คุณได้เข้าไปอ่านบทความของ Sammi เกี่ยวกับสกิน Nunca Olvidados แล้วใช่ไหม?) เราจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้มาเจาะลึกถึงขั้นตอนการสร้างสกินอาวุธใน VALORANT ของเรากันอีกครั้ง

หัวข้อที่จะพูดถึงกันในวันนี้จะไม่ได้มีแค่การย้อนอดีตเท่านั้นนะ แต่เราจะมาพูดถึงสกิน Reaver ที่เป็นหนึ่งในสกินโปรดของพวกเราอีกด้วย!

ต้นแบบแรกเริ่ม

สกิน Reaver นั้นได้อยู่กับ VALORANT มาอย่างยาวนานมาก ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2018 เลยทีเดียว สกิน Reaver นั้นเป็นหนึ่งในสกินแรก ๆ ที่ทีมของเราได้พัฒนาขึ้นมาในตอนที่เรายังคงพยายามคิดให้ได้ว่าสกินแบบไหนที่ควรจะมีอยู่ใน VALORANT ดี แม้ว่าในตอนนี้ มันอาจจะดูเห็นได้ชัดอยู่ (FX สุดเจ๋ง แอนิเมชัน เสียง เอฟเฟกต์ปิดฉาก และส่วนอื่น ๆ) แต่สำหรับตอนนั้น เรายังไม่มีไอเดียว่าเราจะทำออกมาได้ขนาดไหนกัน เราจะทำได้มากแค่ไหนด้วยข้อจำกัดด้านเกมเพลย์ที่หนักหนาเอาเรื่อง รวมทั้งอะไรคือสิ่งที่ผู้เล่นของเราต้องการจากสกินอีกด้วย

พวกคุณจะต้องการแฟนตาซีที่มีความเข้ากับตัวเกมและดูล้ำลึกหรือเปล่า? เมื่อพูดถึง “มังกร” คุณจะต้องการรูปภาพของมังกรที่ตกแต่งอยู่บนตัวปืนหรือเปล่า หรือคุณจะต้องการปืนที่เป็นมังกรแบบ “ตัวเป็น ๆ” เลย? เราจะสามารถปรับแต่งเสียงหรือเปลี่ยนแสงเงาของตัวปืนให้มันออกมาแล้วไม่เกิดความสับสนได้หรือไม่? หากเราทำสกินออกมาดูเกินกว่าที่มันควรจะเป็นไปล่ะ?

เพื่อที่จะตอบคำถามเหล่านี้ เราได้สร้าง Reaver ต้นแบบแรกเริ่มของเราขึ้นมา

“ตัวทดลองสกิน” นี้เป็นความพยายามตั้งต้นของเราในการสร้างสกินพร้อมกับโมเดลปรับแต่ง แอนิเมชัน เอฟเฟกต์ เสียง รวมทั้งเอฟเฟกต์ปิดฉากขึ้นมา เราได้ร่วมทดสอบกับทีมออกแบบของเราในห้องทดลองวิจัยลับสุดยอดของเราในทั่วทุกมุมโลกซ้ำแล้วซ้ำอีกยาวนานเกือบ 2 ปี ก่อนที่ VALORANT จะได้เปิดตัวออกมา

การทดสอบเหล่านี้ได้ช่วยให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ควรและไม่ควรทำได้อย่างดีเลย ซึ่งมันช่วยให้เราพัฒนาสกินต่าง ๆ ที่เป็นสกินในใจพวกคุณออกมาได้มากมายเลย ไม่ว่าจะเป็น Prime, Oni, Elderflame รวมทั้งสกินอื่น ๆ อีกด้วย เรายังได้นำสกิน Reaver เข้าไปไว้ในการทดสอบ Closed Beta เพื่อที่จะช่วยให้เราได้ความคิดเห็นถึงสิ่งที่เราควรทำ (รวมทั้งสิ่งที่ไม่ควรทำ) กับสกินพรีเมียมต่าง ๆ ด้วย

หรือก็อาจพูดได้ว่าสกิน Reaver นั้นก็เกือบเป็นเครื่องสังเวยตัวตายตัวแทนให้กับอนาคตของสกินต่าง ๆ ใน VALORANT เลย และเราไม่ได้คิดว่าจะนำมันกลับมา “จริง ๆ” เมื่อเกมได้ปล่อยตัวออกมาแล้ว!

มาถึงในตอนที่ได้เปิดตัว VALORANT ทั่วโลกในเดือนมิถุนายน 2020 ตอนที่เราได้เปิดตัว Prime และ Sovereign เรารู้สึกมีความสุขมากที่ได้เห็นว่าพวกคุณชื่นชอบสกินของเรามากแค่ไหน มันทำให้รู้สึกว่าการทดสอบ Reaver ที่เราทำมาทั้งหมดมันคุ้มค่าเหนื่อยจริง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ได้รับความคิดเห็นที่เราไม่ได้คาดคิดไว้ด้วยเช่นกัน!

ย้อนไปเมื่อปี 2020 เราทั้ง 2 คนไม่ได้ทุ่มเทเวลาให้กับโซเชียลมีเดียมากนัก แต่ทุกครั้งเราได้เข้าไปดูนั้น เราก็จะได้ยินเสียงเรียกร้องจากผู้เล่นที่บอกว่า “เอาสกิน Reaver กลับมาที!”

การพัฒนาเพื่อคอมมูนิตี้ไปด้วยกันกับคอมมูนิตี้

ส่วนที่สำคัญสำหรับการเป็นผู้พัฒนาของ VALORANT นั้นคือการรับฟังเสียงจากคอมมูนิตี้และทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อพวกคุณ เราจึงได้นำสกิน Reaver กลับมาอีกครั้ง สำหรับทีมของเรา มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นมากในการรีเวิร์คผลงานเก่า ๆ และนำมันกลับมาให้มีคุณภาพเทียบเท่ากับสกินอื่น ๆ ของเรา (เราก็ได้สนุกไปกับทำการ์ดผู้เล่นอันแรกของเราขึ้นมาด้วย ซึ่งมันเป็นการ์ดผู้เล่นที่มีกลุ่มจอมเวทที่รวมตัวกันเพื่อร่ายเวทมนตร์ที่จะชุบชีวิตบางสิ่งขึ้นมา เอาจริง ๆ แล้ว นั่นก็คือพวกเราที่กำลังนำสกิน Reaver กลับมานั่นเอง)

เรารู้ดีว่าเราได้มีสกินที่สุดยอดออกมามากมายก่อนสกิน Reaver (อย่าง Singularity และ Glitchpop) เราจึงอยากให้คุณรู้สึกว่าเราเองก็ได้มอบความรักในการสร้างสกิน Reaver เท่า ๆ กับที่เราสร้างสกินเหล่านั้นออกมาหากสกิน Reaver จะได้ฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้งล่ะก็ เราต้องมั่นใจเลยว่าเราจะไม่ผิดหวังกับมันเด็ดขาด!

และแน่นอนว่า มันทำให้เรารู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการกลับมาของ Reaver ว่าจะออกมาได้ดีพอหรือไม่ สิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนนั้นคือการที่สกิน Reaver ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ชวนระลึกความหลังให้กับผู้เล่นในช่วงทดสอบ Closed Beta เท่านั้น แต่มันกลับเป็นที่ชื่นชอบตั้งแต่แรกเห็นสำหรับผู้เล่นใหม่ในทุก ๆ ช่วงของตัวเกมอีกด้วย

และทันใดนั้นเองที่ข้อความจากพวกคุณที่ว่า “เอาสกิน Reaver กลับมาที” ก็ได้กลายมาเป็นคำร้องขอให้ทำสกิน REAVER เพิ่มขึ้นมาอีกเสียแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Phantom ก็คงจะเดาขั้นตอนต่อไปกันได้แล้วล่ะ

ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง

เอาจริง ๆ การปล่อยตัวสกิน Reaver ออกมาอีกครั้งนั้นเป็นสิ่งที่หนักหนาทีเดียว เนื่องจากเราไม่มั่นใจว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร และเราก็รู้ดีว่าการทำเซ็ตที่ 2 ออกมานั้นย่อมมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น เราจะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังให้มันมีความสมดุลในการนำเสนอแก่นแท้ของตัวสกิน Reaver ออกมาในขณะที่จะต้องทำให้รู้สึกว่ามันออกมาดีกว่าสิ่งที่เราได้ทำออกมาไปแล้วก่อนหน้านี้ มันค่อนข้างจะขัดแย้งและซับซ้อนอยู่ งั้นเราจะมาอธิบายให้ฟังกัน

ก่อนที่เราจะเริ่มดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ขั้นแรกจะเป็นการถามตัวเราเองว่า “สกิน Reaver มันคืออะไร?” มันอาจจะฟังดูธรรมดามาก แต่เราก็ต้องคิดให้ได้ว่าอะไรที่ทำให้สกิน Reaver นั้นมันพิเศษขึ้นมา เราจะต้องคิดให้ได้ว่าเหล่าผู้เล่นชื่นชอบสกิน Reaver ที่ส่วนใด และก็ไม่ใช่เพียงแค่การทำรายการตรวจสอบขึ้นมาเฉย ๆ แต่เราจะต้องอธิบายออกมาให้ได้ว่าสกิน Reaver สร้างความรู้สึกแบบไหนให้กับคุณ

หรือก็คือ ในตอนที่คุณถือสกิน Reaver ลงสู่สนามรบไปนั้น ตัวตนของคุณคือใครกัน?

สกิน Reaver ควรจะให้ความรู้สึกถึงความเป็นจอมเวทมนตร์ดำ จอมเวทผู้ถูกครอบงำที่ใช้ศาสตร์แห่งความมืดและทำพิธีต้องห้ามภายใต้เงามืด ทุกการติดตั้ง รีโหลด และสังหารนั้นจะเป็นการกุมพลังแห่งหินรูนอันพิศวงเอาไว้ และเสริมพลังให้คุณด้วยพลังงานด้านมืดของมัน คุณรับรู้ได้ถึงพลังของมันหรือเปล่า?

ทุก ๆ ขั้นตอนในการสร้างสกิน Reaver ขึ้นมานั้นต่างก็มีเพื่อดึงคุณให้เข้ามาดื่มด่ำกับโลกแฟนตาซีของมัน จนเกือบจะทำให้คุณรู้สึกว่าคุณกำลังเล่นเกมที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง รวมทั้งในโลกที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงด้วย

อาร์ตสุดดาร์ก

คอนเซปต์หรือ “การออกแบบ” นั้นเป็นองค์ประกอบหลัก ๆ ที่ทำให้สกิน Reaver นั้นน่าดึงดูดเลยทีเดียว ซึ่งมันเป็นแนวทางว่าตัวโมเดลนั้นควรจะออกมาเป็นอย่างไร รูปร่างที่หนาทึบแต่ก็ดูมีความไหลลื่น รูปทรงที่ดูเฉียบคม และหินรูนที่ส่องประกาย มันเป็นแม่แบบที่กำหนดทิศทางสำหรับสกินนี้เลย

และต่อมาจะเป็นส่วนของแอนิเมชันที่มีการสร้างวิชวลเอฟเฟกต์และเสียงขึ้นมา เมื่อย้อนกลับไปดูสกิน Reaver ต้นตำรับ เราก็พบว่าเราได้นำแอนิเมชันที่สร้างขึ้นมาอย่างดี ดูมีความเชื่องช้า และมีความสอดคล้องของอาวุธ Reaver ต้นตำรับมาใช้เพื่ออ้างอิง มันดูมีพลังที่ลึกลับซ่อนอยู่และให้ความรู้สึกถึง “การถูกครอบงำ” มันไม่ได้ดูเหมือนการจัดฉากแสดงขึ้นมา และมันก็ไม่ใช่การเล่นมายากลอย่างแน่นอน ในขณะที่คุณรีโหลด คุณควรจะรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังอัญเชิญพลังแห่งหินรูนเวทมนตร์ออกมาอยู่ แต่คุณก็ควรจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่สร้างความหวาดระแวงให้คุณอีกด้วย ราวกับว่าคุณไม่มั่นใจว่าจะสามารถรับมือพลังอันมหาศาลของมันไว้ได้หรือไม่ คุณจะรับรู้ถึงความสับสนในใจที่พวกเราทุกคนต่างต้องเผชิญที่ว่าฉันเป็นผู้นำทางแห่งแสงสว่างหรือตัวตนแห่งความชั่วร้ายกันแน่

ในส่วนของวิชวลเอฟเฟกต์ มีสิ่งที่คุณอาจไม่ได้สังเกตเลยคือเราแทบจะไม่ได้ใช้สีดำล้วนใน VALORANT เลย แม้กระทั่งกับสกินต่าง ๆ ของเรา ในกรณีนี้ Stefan Jevremovic ศิลปิน VFX ของเรารู้สึกว่าการที่จะสื่อถึงความระทึกขวัญและความน่าขนลุกของสกิน Reaver ออกมาได้ดีที่สุดนั้นคือการใช้สีดำล้วนพร้อมกับส่วนเน้นที่มีสีในโทนมืดให้มาก

คุณจะเห็นได้ชัดเจนเลยในส่วนของแสงปากกระบอกปืนที่ Stefan ได้อธิบายไว้ว่า “ดำสนิท แบบสีดำล้วน ๆ แบบดำปิ๊ดปี๋และอาจปน ๆ ด้วยสีม่วงดำ”

สุดท้ายนี้ สิ่งที่พวกคุณบอกกันเข้ามากันเยอะมากเลยคือความชื่นชอบในเสียงของสกิน Reaver เสียงสะท้อนที่ชวนให้ขนลุกซู่ โทนเสียงทุ้มต่ำที่ชวนให้หวาดวิตก และเสียงกระดิ่งก้องกังวานพร้อมกับธงการสังหาร ตัวเสียงนั้นเป็นส่วนสุดท้ายที่มาช่วยทำให้ความน่าขนลุกและความน่าหวาดกลัวของสกิน Reaver ออกมาได้สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

เราตระหนักถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งหมดเหล่านี้ในตอนที่เราออกแบบ Phantom, Ghost, Spectre, Odin และ มีด Karambit ขึ้นมา เนื่องจากอาวุธแต่ละชิ้นก็จะมีความท้าทายในความพิเศษเฉพาะตัวของมันอยู่ สกิน Reaver ต้นตำรับนั้นไม่มีอาวุธเก็บเสียงเลย แต่ในเซ็ตนี้นั้นจะมีทั้ง 3 ชิ้นด้วยกัน สกิน Reaver นั้นจะเข้าถึงบรรยากาศความน่าหวาดกลัวได้อย่างไรกันหากได้รับการออกแบบในปืนเก็บเสียง? Phantom จะให้ความรู้สึกที่ก้องกังวานเทียบเท่ากับปืนที่ส่งเสียงยิงดังสนั่นอย่าง Vandal ได้หรือไม่?

Vandal และ Operator นั้นเป็นอาวุธที่มีเสียงที่ทรงพลังที่สุดของเราเลยและมีแสงปากกระบอกปืนที่มีขนาดใหญ่เห็นได้ชัดอีกด้วย แล้วปืนเก็บเสียงนั้นจะสามารถทำผลงานออกมาได้สมกับวิชวลเหล่านั้นหรือไม่? การที่คุณจะนำ Phantom มาเปรียบเทียบกับ Vandal และยังรู้สึกว่าพวกมันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเซ็ตเดียวกันและรู้สึกเหมือนกับว่าพวกมันมีคุณค่าในระดับที่เทียบเท่ากันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเราเลย

สำหรับอาวุธระยะประชิดนั้น เราคิดว่ามีดมือสังหารในสกิน Reaver ต้นตำรับนั้นสมบูรณ์แบบแล้ว มันดูซ่อนเร้นแล้วก็เท่มาก ๆ และเหล่าผู้มองว่าตนเป็นพวกคลั่งไคล้ในส่วนนี้/เมน Fade และ Omen ต่างก็ชื่นชอบมันเอามาก ๆ นั่นหมายความว่าเราได้คิดกันอย่างหนักเลยเกี่ยวกับสไตล์ของอาวุธระยะประชิดที่จะสร้างขึ้นมาให้ “คู่ควร” กับ Reaver ในครั้งนี้

เราได้สำรวจไอเดียหลาย ๆ รูปแบบ แต่เราก็กลับวนมาที่มีด Karambit อยู่ตลอดเลย มันทั้งดูฉูดฉาดและมีความซ่อนเร้นไปพร้อม ๆ กัน และมันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกถึงความพิเศษและน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก และในครั้งนี้ สกินอาวุธระยะประชิดจะมาพร้อมกับตัวเลือกสีต่าง ๆ อีกด้วย!

ดูดียิ่งขึ้นแต่ก็ยังคงความเป็นตัวตน

การนำสกินโปรดของเหล่าแฟน ๆ กลับมาอีกครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นสกินในดวงใจที่คลั่งไคล้ความดาร์กของพวกเรา Kerwin Atienza หัวหน้าฝ่ายศิลป์ของเรานั้นไม่ได้อยู่ในทีมผู้พัฒนา VALORANT ของเราในตอนที่ปล่อยตัวสกิน Reaver ออกมาในตอนแรก แต่เราก็ได้มอบหมายความท้าทายในการเป็นผู้นำให้กับเหล่าศิลปินในการสร้างสกิน Reaver เซ็ตที่ 2 ให้กับเขา เราทั้งคู่ต่างบอก Kerwin ว่าเราจะคอยจับตามองสกิน Reaver ไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นความคิดเห็นของเราอาจจะดูจู้จี้จุกจิกและไม่ยุติธรรมไปบ้างในบางครั้ง แต่ที่เราทำไปทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้สกิน Reaver นั้นออกมาเป็นในแบบที่ควรจะเป็น

เราได้เห็นว่าพวกคุณหลาย ๆ คนต่างก็ใช้งานสกิน OG Reaver ในเกมของเรา และมันก็เป็นสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นอย่างมากเมื่อได้เห็นเหล่าผู้เล่นระดับมืออาชีพใช้งานมันในช่วงทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ต (จำไว้ว่า เราไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าเหล่าผู้เล่นอันดับต้น ๆ ของเราจะต้องการใช้งานสกินพรีเมียมต่าง ๆ หรือเปล่าเนื่องจากข้อกังวลในด้านเกมเพลย์) และเราก็ทุ่มเททั้งแรงใจและแรงกายให้กับเซ็ตสกินนี้อย่างสุดตัวเพื่อหวังว่ามันจะเป็นที่พอใจสำหรับคุณทุก ๆ คน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เราหวังว่าจะได้เห็นพวกคุณทุกคนชื่นชอบสกินเซ็ตใหม่ของ Reaver นี้เช่นเดียวกับเรา (โดยเฉพาะมีด Karambit ตัวเลือกสีขาวที่เป็นสกินโปรดของทีมผู้พัฒนาเลย เราเพิ่งได้รับข้อความมาในวันนี้ที่บอกว่า "มันโคตรจะแจ่มว้าวไปเลย”)

เรายังไม่มีแผนการในการสร้างสกินเพิ่มจากไลน์สกินที่มีอยู่แล้ว (Spline 2.0 คิดว่าไงล่ะ?) แต่ก็ต้องดูว่าสกิน Reaver จะออกมาเป็นอย่างไร รวมทั้งความคิดเห็นที่ได้รับจากคอมมูนิตี้จะมาในรูปแบบไหน ไม่แน่ว่าเราอาจคิดที่จะทำสกินจากไลน์สกินที่มีอยู่แล้วออกมาอีกก็ได้!