VALORANT Data Drop: VCT 2023

พวกเรากลับมาแล้ว! ในวันนี้ VALORANT Data Drop จะพูดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับ VCT ในปี 2023 ในขณะที่ปีนี้กำลังจะจบลง และ Champions Tour ซีซั่นใหม่ใกล้จะเริ่มขึ้น เราจึงมองว่านี่คือโอกาสอันดีในการย้อนมองปี 2023 ด้วยสถิติตัวเลข

ในบทความนี้ เราจะไฮไลท์ทีมและผู้เล่น VCT มืออาชีพบางส่วนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจากตลอดทั้งปีที่ผ่านมา สำหรับในส่วนของข้อมูล ทีมงานข้อมูลเชิงลึกของ VAL ได้ทำการดึงสถิติจากการแข่งขันระดับมืออาชีพทุกแมตช์ที่เกิดขึ้นในซีซั่นปกติระหว่างปี 2023 และ Last Chance Qualifiers รวมถึงอีเวนต์ระดับโลกต่าง ๆ อาทิ LOCK//IN, Masters และ Champs

เหล่าเอเจนท์แห่งความโกลาหล

ก่อนอื่น เรามาเริ่มต้นกันด้วยเรื่องเกี่ยวกับเอเจนท์ ในปี 2023 เราได้ชมการเล่นสุดเร้าใจจากบรรดาเอเจนท์ทุกคน มีใครจำช็อตพลิกเกมด้วยมีดตอนเหลือ 5 HP ของ EG C0m ได้บ้าง? (หมายเหตุ: มีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม) แต่ใครกันที่จะพูดได้เต็มปาก ว่าตนเป็นผู้เล่นที่ใช้เอเจนท์แต่ละคนได้เก่งที่สุด?

ในการวิเคราะห์ครั้งนี้ เราจะดูสถิติของผู้เล่นมืออาชีพที่เลือกใช้เอเจนท์คนเดิมอย่างน้อย 5 เกม ตลอดทั้งซีซั่น 2023 แน่นอนว่าย่อมมีบางเอเจนท์ที่ถูกเลือกใช้น้อยกว่าคนอื่น ๆ และมีบางทีมที่ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าคู่แข่งทีมอื่น ๆ ดังนั้น นี่จึงถือเป็นขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมในการเป็นตัวแทนของผู้เล่นและเอเจนท์ทุกคน (ยกเว้น Deadlock น่าเสียดายที่สาวน้อยจากนอร์เวย์ของเรายังถือเป็นหน้าใหม่ และยังไม่เคยปรากฎตัวในการแข่งขันระดับมืออาชีพ)

ให้ทุกคนได้ทำตามความถนัด

ตลอดทั้งซีซั่นการแข่งขันปี 2023 ผู้เล่นเหล่านี้มีอัตรา K/D สะสมดีที่สุดในการใช้งานเอเจนท์:

สอยให้ร่วง

จะ K/D หรือกากดี เราก็อยากรู้ว่าใครสังหารศัตรูได้เยอะที่สุดตลอดปีที่ผ่านมา นี่คือผู้เล่น 10 อันดับแรกที่มีจำนวนคิลสูงสุดใน VCT 2023:

อัลติเมทของฉันพร้อมแล้ว

สำหรับแผนภาพถัดไป เราจะมาพิจารณาการใช้งานอัลติเมท (มีการใช้อย่างน้อย 5 ครั้ง) ของเอเจนท์แต่ละคน ซึ่งมีอัลติที่เราสามารถติดตามอิทธิพลของการใช้อัลติต่อรูปเกมได้ไม่ยาก เช่น อัลติของ Astra และ Viper นั้นมีประโยชน์อย่างมาก แต่ก็ยากมากที่จะวัดผลออกมาเป็นข้อมูลในเชิงปริมาณแม้ว่าเราจะเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันจริงได้ไม่ยาก แต่เราไม่มีวิธีการที่น่าเชื่อถือในการประเมินระดับของเสียงหรือภาพที่อัลติลักษณะนี้สามารถสกัดกั้นได้ ดังนั้น ทีมงานจึงโฟกัสไปที่อัลติเมทของเอเจนท์ซึ่งสร้างเอฟเฟกต์สถานะ ดีบัฟ หรือความเสียหายบางอย่าง ผู้เล่นต่อไปนี้ สามารถใช้งานอัลติเมทได้อย่างคุ้มค่าที่สุด:

มันจ้าซะเหลือเกิน

นอกจากนี้ ทีมข้อมูลเชิงลึกยังได้พิจารณาข้อมูลการใช้งานแฟลชจากตลอดทั้งปี เพื่อชี้ทางสว่าง (จ้า) ในหัวข้อที่มีการถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ว่าใครคือผู้เล่นที่หลบแฟลชเก่งที่สุดใน VCT กันแน่? แน่นอนว่าการวัดเวลาที่ใช้ในการตอบสนองของผู้เล่นนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก แต่ทีมงานก็ค้นพบวิธีการคำนวณอันชาญฉลาด ที่จะช่วยถ่ายทอดเรื่องราวในแบบเดียวกันนี้ให้กับเรา

เอฟเฟกต์แฟลชจะมีระยะเวลาแบบเต็ม ๆ อยู่ระหว่าง 1 ถึง 3.1 วินาที ขึ้นอยู่กับสกิลแฟลชของเอเจนท์แต่ละคน ระยะเวลาของเอฟเฟกต์แฟลชจะลดลง โดยขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นคนดังกล่าวโดนแฟลชเต็มขอบเขตการมองเห็นมากน้อยแค่ไหน การหันหลบทันทีที่รู้ตัวว่าโดนแฟลช จึงสามารถช่วยให้เอฟเฟกต์แฟลชมีระยะเวลาที่สั้นลงได้ ดังนั้น ทีมข้อมูลเชิงลึกจึงตรวจสอบผู้เล่นที่โดนแฟลชของศัตรูอย่างน้อย 20 ครั้ง ตลอดฤดูกาล 2023 และวัดระยะเวลาแฟลชโดยเฉลี่ยจากทุกครั้งที่พวกเขาโดน ข้อมูลนี้สามารถบอกเราได้เป็นอย่างดี ว่าผู้เล่นแต่ละคนมีความชำนาญในการหลบแฟลชมากน้อยเพียงใด และนี่คือผู้เล่น 5 อันดับแรก ที่หลบแฟลชได้เก่งที่สุดใน VCT:

ถิ่นใคร คนนั้นคุม

ตอนนี้เรามาพูดถึงแผนที่กันบ้าง บรรดาทีมมืออาชีพด้านล่าง สามารถทำตามกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อได้เล่นในแต่ละแผนที่จากที่มีอยู่ทั้งหมดแปดแห่ง ต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่าความได้เปรียบเสียเปรียบในแต่ละแผนที่ ล้วนไร้ค่าเมื่อทีมเหล่านี้ลงเล่น

ไม่ว่าจะเล่นแผนที่ไหน Fnatic ก็เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดด้านอัตราชนะหลังจากติดตั้ง Spike ขณะเป็นฝ่ายโจมตี และอัตราการปลดชนวน Spike ขณะเป็นฝ่ายป้องกัน FNC คว้าชัยชนะได้ 74.8% จากทุกรอบที่พวกเขาติดตั้ง Spike สำเร็จขณะเป็นฝ่ายโจมตี และสามารถปลดชนวน Spike ได้ 39.1% จากทุกรอบที่ฝ่ายศัตรูติดตั้ง Spike สำเร็จ

เครื่องมือทำมาหากิน

การดวลปืน มันคือเหตุผลที่พวกเราเลือกเล่นเกมนี้ ดังนั้น เรามาดูกันว่าใครคือนักแม่นปืนอันดับหนึ่งประจำปี 2023 ในการใช้อาวุธแต่ละอัน

ไรเฟิลก็งั้น ๆ แหละ

การคว้าชัยชนะในรอบปืนพก มีส่วนช่วยในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน หรือรีเซ็ตสภาพจิตใจของคุณในช่วงครึ่งนั้น ในบางครั้ง ทั้งหมดที่คุณต้องการก็แค่ 800 เครดิตกับฝันอันยิ่งใหญ่ นี่คือทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในรอบปืนพก:

แล้วผลงานการใช้ปืนพกของแต่ละคนล่ะเป็นไงบ้าง? เรื่องน่าประหลาดใจคือ ผู้เล่นที่ใช้ปืนพกเก่งที่สุดบางส่วน อยู่ในทีมที่ไม่ได้ทำผลงานรอบปืนพกติด 5 อันดับแรก ยกเว้นเฉพาะ GE เราจึงพูดได้อย่างเต็มปากว่า Ayrin กับปืนพกของเขา น่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการวิเคราะห์ในหัวข้อนี้ ทีมงานขยายขอบเขตเกณฑ์การพิจารณาออกไปอีกเล็กน้อย เมื่อเทียบกับแผนภาพ K/D อื่น ๆ เนื่องจากในแต่ละเกมจะมีรอบปืนพกเพียงสองรอบเท่านั้น นี่คือผู้เล่นที่มีอัตรา K/D ที่สุด ในการเล่นรอบปืนพก 20 อย่างน้อยรอบขึ้นไป:

ถึงเวลางัดปืนโตออกมาดวลกันบ้าง

รอบปืนพกก็ส่วนรอบปืนพก แต่รอบการซื้อนั้นถือเป็นอีกหนึ่งมิติของการดวลปืน ทีมข้อมูลเชิงลึกจึงพิจารณาอัตรา K/D ของผู้เล่นทุกคนที่เลือกใช้อาวุธแต่ละอันในการแข่งขันอย่างน้อย 5 เกม มาดูกันว่าใครคือผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในการใช้ปืนแต่ละกระบอก:

ประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

นอกเหนือจากเอเจนท์ แผนที่ และอาวุธแล้ว ทีมข้อมูลเชิงลึกยังเจาะลึกประเด็นปลีกย่อยอื่น ๆ ที่น่าสนใจจากตลอดทั้งซีซั่นอีกด้วย

โลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย

เกมเมอร์โดยส่วนใหญ่ย่อมทราบดีว่าสไตล์การเล่นในแต่ละภูมิภาคมักจะแตกต่างกัน ข้อแตกต่างหนึ่งที่สำคัญ ได้แก่จังหวะการเดินเกมโดยรวมของแต่ละภูมิภาค ก็แค่กด ‘W’ ไปซะ? หรือจะไล่สังหาร?

• ทีมข้อมูลเชิงลึกพบว่าทีมจาก VCT แปซิฟิกมีเวลาเฉลี่ยในการติดตั้ง Spike รวดเร็วที่สุด ที่ 52.3 วินาที
• ทีมข้อมูลเชิงลึกพบว่าทีมจาก VCT ยุโรปมีเวลาเฉลี่ยในการติดตั้ง Spike ช้าที่สุด ที่ 60.4 วินาที

เก็บชัยชนะไปทีละรอบ

คะแนนก็เป็นแค่เพียงตัวเลข นี่คือทีมบางส่วนที่สามารถเอาชนะศึกที่ดูราวไร้ทางสู้ และคว้าชัยชนะได้อย่างน่าทึ่งในการแข่งขันบางแมตช์

• มีเพียงสองทีมเท่านั้น ที่สามารถใช้อาถรรพ์ 9-3 อันลี้ลับให้เป็นประโยชน์ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง: NRG และ C9
  • NRG เริ่มจาก 2-1 ก่อนจะตามหลังอยู่ที่ 3-9 ในช่วงครึ่ง
  • C9 เริ่มจาก 2-3 ก่อนจะตามหลังอยู่ที่ 3-9 ในช่วงครึ่ง ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดจากทุกทีม ที่ตกอยู่ในสถานการณ์อาถรรพ์ 9-3 อย่างน้อยห้าครั้ง
  • 18 จาก 32 ทีม มีอัตราชนะ 0% เมื่อตามหลังที่คะแนน 3-9 ในช่วงครึ่ง
• มีเพียงสองทีมเท่านั้นที่พลิกกลับมาชนะได้จากคะแนน 2-10 ในช่วงครึ่ง: DRX และ Team Liquid
  • ตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 67 เกมที่คะแนนอยู่ที่ 2-10 ในช่วงครึ่ง DRX และ TL เป็นเพียงสองทีมที่สามารถพลิกกลับมาชนะได้ทีมละหนึ่งครั้ง
  • จึงคิดเป็นอัตราการพลิกกลับมาชนะโดยรวม ~3% หลังจากตามหลังอยู่ที่ 2-10
• ในบรรดาทีมต่าง ๆ มีโอกาส 0-26 เมื่อตามหลังที่คะแนน 1-11 ในช่วงครึ่ง และ 0-4 เมื่อตามหลังที่คะแนน 0-12
• เกมที่มีคะแนนเกิดขึ้นสูงสุดประจำปี ได้แก่ ZETA เจอกับ Rex Regum Qeon ใน Last Chance Qualifier ภูมิภาคแปซิฟิก ZETA คว้าชัยชนะไปในท้ายที่สุด ด้วยคะแนน 21-19 จากการแข่งขันที่ยาวนานกว่า 97 นาที เกือบเท่าเวลาที่ใช้ในการเดินทางจากโตเกียวไปนาโกย่าด้วยรถไฟชินคันเซ็นเลยทีเดียว
• เกมที่ใช้เวลาแข่งขันยาวนานที่สุดของปี ได้แก่ Karmine Corp เจอกับ BBL โดยใช้เวลาไปเกือบ 105 นาที Karmine Corp อดทนอย่างไม่ย่อท้อจนได้รับชัยชนะไปที่ 19-17

เราหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับการย้อนมอง VCT ซีซั่น 2023 ในครั้งนี้ อย่าลืมติดตาม Data Drop ครั้งต่อไปในอนาคตอันใกล้ด้วยนะ