VALORANT เจาะลึกเอเจนท์: Fade

สิ่งที่คุณหวาดกลัวที่สุดคืออะไรกัน? ใช่การถูกปฏิเสธหรือเปล่า? หรือเป็นความโดดเดี่ยว? ความเคลือบแคลงใจและความหวาดระแวงนั้นคอยหลอกหลอนในฝันของคุณหรือเปล่า? คุณกลัวว่าจริง ๆ แล้วคุณอาจจะคู่ควรที่จะอยู่แค่แรงค์ Bronze หรือเปล่า?

เราทุกคนต่างก็รู้จักกับความกลัว เราได้เรียนรู้ถึงสิ่งนี้มาตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ: สัตว์ประหลาดที่หลบอยู่ใต้เตียง ทางเดินมืด ๆ ในตอนกลางคืน คุณแม่ที่ทิ้งคุณไว้ที่ช่องคิดเงินให้อยู่เพียงลำพัง เราทุกคนต่างได้รับรู้ถึงความขมขื่นแห่งความหวาดกลัว และรู้สึกถึงความระคายเคืองที่ตามหลอกหลอนอยู่ภายในตัวของคุณ

ในตอนนี้ ชื่อเรียกขานของความกลัวก็ได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว: Fade

นักล่าค่าหัว

ก่อนที่ Fade จะกลายมาเป็นตัวตนที่ก่อร่างขึ้นมาจากความกลัวนั้น ก่อนที่เธอจะได้กลายมาเป็น Fade เธอได้เกิดมาจากแนวคิดเกมเพลย์: การลาดตระเวน

“ในตอนที่เราตัดสินใจว่าจะสร้างเอเจนท์คนที่ 20 ออกมาในแบบไหน เรารู้ว่าเราต้องการใครสักคนที่จะมาแข่งกับ Sova เขาค่อนข้างจะยืนหนึ่งในด้านการลาดตระเวนอยู่เพียงผู้เดียวเลยใน VALORANT และเราต้องการเอเจนท์อีกคนที่มีความสามารถคล้ายคลึงกับเขา” Nick “Nickwu” Smith นักออกแบบเกมอธิบายไว้

และนั่นก็เป็นงานของ Smith ในการจำกัดขอบเขตภาพฝันเกมเพลย์ที่ต้องพึ่งพาการรวบรวมข้อมูลในขณะที่ต้องมีความแตกต่างออกไปจาก Sova นักลาดตระเวนที่มีอยู่เพียงคนเดียว

Sova นั้นต้องพึ่งความเข้าใจในไลน์อัปของแต่ละแผนที่ จุดต่าง ๆ สำหรับการยิง Recon Bolt จากไซต์หนึ่งไปอีกไซต์เพื่อมอบข้อมูลที่จำเป็นให้กับเหล่า Initiator และ Duelist เพื่อที่พวกเขาจะได้บุกเข้าไปในขณะที่คุณคอยระวังหลังให้พวกเขา เขาทำการลาดตระเวนจากระยะไกลได้อย่างแม่นยำเลย ดังนั้นในตอนที่ Smith ออกแบบเอเจนท์ที่จะมาเป็นคู่แข่งกับเอเจนท์นี้ได้ เขาได้ตัดสินใจที่จะลองใช้สกิลที่เข้ามือมากขึ้นเพื่อที่จะมาโต้กลับระยะสกิลของ Sova

“ไอเดียของนักล่าค่าหัวนั้นได้ผุดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มเลยเพราะว่าพวกเขาจะใช้องค์ประกอบของการรวบรวมข้อมูลในทุก ๆ รูปแบบเพื่อที่จะออกไล่ล่าค่าหัวที่พวกเขาหมายไว้ มันจะดูเข้าถึงความรู้สึกของการรวบรวมข้อมูลได้มากกว่าการยิงลูกธนูออกไปจากที่ไกล ๆ และคอยส่งข้อมูลเหล่านั้นให้กับเพื่อน ๆ ในทีมของคุณอย่างมากเลย” Smith อธิบายไว้

“ผมเคยมีไอเดียเกี่ยวกับกวางนักล่าที่จะคอยติดตามพวกเขา กักขัง และเก็บคิลมาได้ด้วยนะ” เขาชะงักแล้วหัวเราะออกมา “ผมไม่เคยล่าอะไรมาก่อน ผมไม่รู้เลยว่าการล่ามันเป็นอย่างไร แต่มันก็เป็นความรู้สึกประมาณว่า ‘ฉันรู้นะว่าแกอยู่ที่ไหน ฉันจะขังแกไว้ แล้วก็จะจัดการแกซะ’ ที่ผมอยากจะให้มีในตัว Fade”

ร่องรอยติดตามของ Fade นั้นเป็นหนึ่งในกลไกแรกที่ Smith ได้เริ่มสำรวจ เป้าหมายนั้นคือการไล่ล่า “ค่าหัว” ในรูปแบบที่ดูมีความใกล้เคียงและสามารถเข้าถึงได้

“เมื่อยึดจากรูปแบบของ ลูปเกมเพลย์หลักของ VALORANT เราต้องการให้การไล่ล่าร่องรอยของ Fade นั้นมีขอบเขตที่กว้างกว่าการไล่ล่าศัตรูเพียงคนเดียว” เขาอธิบายไว้ “หากคุณคอยไล่ล่าศัตรูเพียงคนเดียว มันก็จะดูเข้ากันกับวิธีการในการล่าค่าหัวได้อย่างดีเลยทีเดียว แต่พอมามองในส่วนของเกมเพลย์แล้ว มันจะกลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกเลยว่าคุณไม่ใช่เอเจนท์ที่มีประสิทธิภาพนัก ในทางกลยุทธ์แล้ว คุณไม่มีความสามารถมากพอที่จะสร้างแรงกดดันให้กับทีมศัตรู หรือไม่เช่นนั้นเราก็ต้องทำให้มันทรงพลังมากพอที่จะทำให้คุณเกือบจะการันตีคิลศัตรูให้ได้สักคน และมันจะกลายเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่ต้องได้พบเจอเลย”

ทางออกในส่วนนี้คือ การทำให้ร่องรอยติดตามของสกิลต่าง ๆ ของเธอนั้นส่งผลต่อศัตรูทุกคน และก็ทำให้พวกเขาเห็นร่องรอยของพวกเขาเองด้วย

มันช่วยให้ Fade ได้มีโอกาสเล่นกับเหยื่อของเธอได้มากขึ้น เธอจะไล่ตามร่องรอยของคุณหรือของคนอื่น ๆ มาไหม? เธอจะส่งข้อมูลให้กับเพื่อนร่วมทีมของเธอไหม? หรือเธอจะปล่อยให้คุณมุดหัวหลบมุมอยู่เพียงลำพัง?

“สิ่งที่เราได้พบในตอนที่เราใช้สกิลนี้คือ ในฐานะผู้เล่นที่เล่นเป็น Fade นั้น คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าคุณได้คอยรวบรวมข้อมูล ติดตาม และไล่ล่าผู้คน และได้จัดการพวกเขาด้วยข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นอยู่” John “Riot MEMEMEMEME” Goscicki ผู้อำนวยการหัวหน้าฝ่ายการผลิตตัวละคร แชร์ให้ฟัง “และในทางกลับกับเอง เมื่อคุณต้องเป็นฝ่ายที่ถูก Fade ไล่ล่า มันก็ให้ประสบการณ์ที่น่าหวาดกลัวและสร้างความวิตกได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะเลือกเส้นทางไปตามความรู้สึกในตอนที่คุณได้เล่นและตอนที่คุณต้องเผชิญเอเจนท์คนนี้ และนั่นก็เป็นสิ่งที่นำพามาสู่ธีมที่มีความดาร์คและดูโหด ๆ ขึ้น”

เมื่อฝันร้ายกลายเป็นจริง

ตอนที่พัฒนาเอเจนท์ใหม่ ๆ ทางทีมจะใช้แรงบันดาลใจจากหลาย ๆ แหล่งมาช่วย แต่ส่วนหลัก ๆ เลยก็จะมาจากผู้คนนี่แหละ ประสบการณ์ของมนุษย์จากทั่วทุกมุมโลกที่ได้เชื่อมพวกเราเข้าด้วยกัน ไม่ว่าเราจะเชื่อในสิ่งใด พวกเขาจะเป็นใคร หรือบ้านเกิดของพวกเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ความรู้สึกอย่าง ความพอใจ ความหวัง ความฝัน รวมถึง ความวิตก ความกลัว ฝันร้าย

แต่ความรู้สึกคู่ขนานในด้านหนึ่งนั้นจะสร้างแรงกระตุ้นที่มากยิ่งกว่า อีกทั้งความรู้สึกในด้านนั้นก็ดูไม่ค่อยมีปรากฏในรายชื่อเอเจนท์ของเราในตอนนี้มากเท่าไหร่

นอกจาก Omen แล้ว และอาจนับรวม Yoru หรือ Reyna ไปด้วย มันก็ไม่ค่อยมีเอเจนท์ที่มีความ“lnwzaทมิฬ69” เอาจริง ๆ แล้ว เหล่าเอเจนท์ที่ปล่อยออกมาเมื่อไม่นานนี้นั้นส่วนใหญ่ค่อนข้างดูสดใสทั้งนั้นเลย Neon ที่เต็มไปด้วยความห่วงใยภายใต้คำพูดที่ไม่ตรงกับใจ Chamber ชาวฝรั่งเศสที่มาพร้อมกับเสน่ห์และทิฐิ และ KAY/O หุ่นรบที่สุดแสนจงรักภักดี (ตราบใดที่คุณไม่ใช่ชาว Radiant นะ)

หลังจากที่ได้เห็นสกิลของ Fade มันก็ชัดแล้วว่าพวกเขากำลังสร้างเอเจนท์ที่มีความดาร์คขึ้นอีกหน่อย

“ภาพฝันของนักล่าค่าหัวนั้นมันผุดขึ้นมาให้เห็นได้ชัดมาก ๆ จนการเล่าเรื่องนั้นออกมาได้แบบลงตัวเลยทีเดียว” Ryan “Pwam” Clements นักเขียนเรื่องราวนึกได้

Clements และ Joe “ParmCheesy” Killeen หัวหน้าทีมเรื่องราวได้เสนอไอเดียที่แตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับภาพฝันธีมของ Fade แต่มีไอเดียหนึ่งที่ยืนหนึ่งเลย: ฝันร้ายที่มีชีวิต

ฝันร้ายนั้นเป็นสิ่งที่สร้างจุดที่น่าสนใจสำหรับภาพฝันของพลังเลยทีเดียว เราทุกคนต่างมีฝันร้าย พวกมันทำให้เกิดความกลัวที่ฝังรากลึกในจิตใจ และมันก็เป็นต้นกำเนิดพลังสุดพิเศษของ VALORANT

“วิธีที่เราผสมผสานฝันร้ายเข้าไปในสกิลต่าง ๆ ของเธอนั้นก็ดูเข้ากันได้ดีกับสิ่งที่เราสัมผัสได้ในการเผชิญกับเธอในช่วงการทดสอบเลย มันเป็นประสบการณ์ที่สร้างความวิตกและดูเสี่ยงมาก ๆ เมื่อคุณถูกติดตามด้วยร่องรอยของเธอ และเราต้องการคงความรู้สึกนั้นไว้ในตลอดทั้งการออกแบบของเธอ” Smith อธิบายไว้

นอกเหนือจากต้นกำเนิดพลังสุดพิเศษนี้แล้ว ฝันร้ายและธีมที่ดูโหดเหี้ยมขึ้นของ Fade นั้นหมายความว่าเธอจะมีโทนสีที่ดูมีความพิเศษกว่าเอเจนท์คนอื่น ๆ อย่างมากเลย

“ส่วนที่ยากที่สุดของการออกแบบเอเจนท์ใหม่ ๆ จากมุมมองภาพคอนเซปต์นั้นคือ การคุมโทนสีให้ดูพิเศษ สีพื้นฐานทั้งหมดนั้นได้ถูกใช้ไปหมดเรียบร้อยแล้ว และเราต้องหาการผสมผสานสีที่จะให้ความรู้สึกที่มีความพิเศษออกมาในขณะที่สามารถมองออกได้ในตัวเกม” Konstantin “Zoonoid” Maystrenko ศิลปินคอนเซปต์ แชร์ให้ฟัง

“เนื่องจากที่เราตัดสินใจให้เธอเป็นสาวแห่งฝันร้ายแล้ว เราต้องการที่จะคงให้ธีมสีของ Fade นั้นมีความหม่นลงไปอีกและเน้นหนักไปทางสีเทาและสีดำให้มากขึ้น แต่สีดำนั้นเป็นสีที่สร้างความยุ่งยากสำหรับตัวเกมเลยทีเดียว เพราะมันจะมีการตัดกันและแยกออกจากสภาพแวดล้อมในตัวเกมได้ไม่ค่อยดีนัก” เขากล่าวต่อ

นอกจากโทนสีของ Fade แล้ว Maystrenko ต้องการให้เธอมีชุดที่ดูทันสมัยและมีสไตล์อีกด้วย เขาได้อิงไอเดียของเขาจากแฟนตาซีในโลกปัจจุบัน แฟนตาซีมากมายในสื่อสมัยใหม่นั้นจะยึดอยู่ในดินแดนในโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเหล่านางฟ้า เอลฟ์ และมังกรมากมาย แต่มันไม่ค่อยมีแฟนตาซีที่เป็นตัวแทนของคนคนหนึ่งที่เติบโตมาในใจกลางเมืองพร้อมกับต้องแบกรับพลังเวทมนตร์ที่ทรงพลังเอาไว้

แล้วเขาก็ถามตัวเอง “เธอจะต้องมีบุคลิกแบบไหน? เธอจะต้องดูเป็นอย่างไร? พลังแห่งฝันร้ายนี้จะต้องมีลักษณะอย่างไรเพื่อที่จะดึงตัวตนของเธอออกมาได้?"

เมื่อ Maystrenko และ Clements ได้ตัดสินใจในการเลือกธีมของ Fade เป็นภาพฝันของฝันร้ายที่มีชีวิต Smith ได้เริ่มผสมผสานสิ่งนี้เข้าไปในเกมเพลย์ของเธอ

“ผมได้คิดเกี่ยวกับวิธีต่าง ๆ ที่จะทำให้สกิลของ Fade แสดงความหวาดกลัวและความวิตกออกมาให้ได้มาก ๆ หลังจากที่เราได้ตัดสินใจว่าสิ่งนั้นจะมาเป็นจุดเด่นของเธอ” Smith นึกได้ “สกิลส่วนใหญ่ของ Fade นั้นจะมีความเข้ามือและต้องเข้าประชิดมากขึ้น แต่สำหรับ Nightfall สกิลอัลติเมทของเธอนั้นจะกว้างกว่ามาก ๆ มันจะไม่ใช่การทำให้ศัตรูแต่ละคนรู้สึกว่ากำลังตกเป็นเป้าหมาย และใช้งานเหมือน ๆ กับสกิลอัลติเมททั่วไปของ Initiator อย่างสกิลของ Breach มันจะมอบโอกาสในการเล่นที่น่าสนใจมากมายสำหรับการที่มันทำให้ศัตรูถูกร่องรอยติดตามและถูกจำกัดการได้ยินไป”

เสียงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างสุด ๆ เลยใน VALORANT คุณสามารถได้ยินเสียงศัตรูวนตำแหน่ง บุกเข้าทำ และรีโหลดกระสุน มันสามารถเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณรอดจากสถานการณ์เสี่ยงตายมาก ๆ มาได้ หรืออาจเป็นสิ่งที่จะการันตีชัยชนะมาเลยก็ได้ การที่ไม่สามารถได้ยินเสียงของศัตรูนั้นทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบทางด้านกลยุทธ์เลยทีเดียว และก็เป็นโอกาสเหมาะในการอัดฉีดความกลัวเข้าในสกิลของ Fade เพิ่มขึ้นอีก

“ด้วยสกิลอัลติเมทอื่น ๆ ที่มีในตัวเกม คุณก็ยังสามารถรู้ได้ว่าศัตรูกำลังไล่ล่าคุณอยู่หากคุณถูกยิง เพราะคุณจะได้ยินเสียงของพวกเขา แต่เมื่อคุณสูญเสียการได้ยินไป มันจะเหมือนกับว่า... ชิบหายละ ผมไม่รู้ว่าโดนอะไร” Smith เสริม “และเมื่อ Fade ได้เห็นร่องรอยของคุณและพบตำแหน่งของคุณในที่สุด มันจะทำให้คุณตกอยู่ใต้ความวิตกเลย ความกลัวที่เกิดขึ้นจะเป็นโอกาสที่จะทำให้เล่นได้พลาดไป สิ่งนี้เป็นความพิเศษที่เธอได้นำเข้ามาสู่รายชื่อเอเจนท์”

การสร้างสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้

“เราตั้งเป้าหมายให้ VALORANT นั้นมีความเป็นสากล โลกใบนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่น่าทึ่งและน่าสนใจ และมันก็มีไอเดียสุดบรรเจิด เรื่องราว และแรงบันดาลใจให้ได้นำมาใช้จากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาแบบไม่ขาดเลยทีเดียว” Goscicki แชร์ให้ฟัง “ในประเทศตุรกีนั้นมีผู้เล่น VALORANT มากมาย แบบ เยอะมากสุด ๆ เลย และเช่นเดียวกับที่เรามองเห็นโอกาสในการสร้างเอเจนท์ลาดตระเวนคนใหม่ เราก็ได้มองเห็นโอกาสในการสร้างตัวละครที่ผู้เล่นชาวตุรกีอาจจะสามารถเข้าถึงได้ด้วยเช่นกัน"

มีหลาย ๆ สิ่งเกี่ยวกับตัว Fade ที่ควรจะโดดเด่นออกมา แสดงให้เห็นถึงความเป็นชาวตุรกีได้ในแวบแรกเลย nazar boncuğu นั้นเป็นสัญลักษณ์ที่พบได้ทั่ว ๆ ไปในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และถูกใช้ในการหลีกเลี่ยงดวงตาของปีศาจ คำสาปที่นำพามาผ่านสายตาอันชั่วร้าย และสัญลักษณ์นี้ก็สามารถเห็นได้อยู่ทั่วทั้งตัว Fade เลย ตั้งแต่จี้บนเสื้อของเธอ ไปจนถึงแหวนที่เธอสวมอยู่

แต่ก็ยังมีสิ่งต่าง ๆ เพิ่มเติมที่น่าตกใจอีกด้วย มันเป็นสิ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของชาวตุรกีที่มีมาตั้งแต่เริ่มต้นที่ทางทีมเองก็ไม่ได้สังเกตเลย

ในวัฒนธรรมของชาวตุรกี เฮนน่านั้นเป็นสัญลักษณ์ของการเสียสละ: การยอมสละความโสดเพื่อเข้าร่วมกับครอบครัวของคู่ของคุณ การยอมสละชีวิตส่วนตัวเพื่อเข้าร่วมกองทัพ หรือแม้ว่าการยอมสละชีวิตของเหล่าสัตว์ต่าง ๆ เพื่อมอบอาหารให้ Fade เองก็คุ้นเคยกับการเสียสละเป็นอย่างดี เธอต้องรับมือกับความกลัวที่ดำมืดที่สุดและความคิดที่สร้างความทรมานที่สุดของผู้คนมากมายเพื่อใช้พลังแห่งฝันร้ายของเธอในขณะที่ยอมสละความสุขสบายของเธอเอง

“เอเจนท์หลาย ๆ คนของเราต่างก็มีรอยสัก มันก็ไม่เชิงว่าเป็นมีมสำหรับผู้เล่น แต่ก็เป็นสำหรับเหล่าศิลปินคอนเซ็ปต์เลยทีเดียว” Maystrenko หัวเราะ “VALORANT นั้นใช้มุมมองของบุคคลที่หนึ่ง เราจึงต้องการใช้ความสร้างสรรค์เพื่อแสดงความพิเศษเฉพาะตัวของตัวละครให้กับผู้เล่น รอยสักหรือสัญลักษณ์บนร่างกายต่าง ๆ นั้นเป็นวิธีที่ทำออกมาได้อย่างเด่นชัดที่สุด ดังนั้นตอนที่เราได้รู้ว่าเฮนน่านั้นเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปและเป็นที่นิยมในเมืองตุรกีที่ทันสมัย มันก็เป็นสิ่งที่ต้องใส่เข้ามาแน่นอน

“การที่ให้ตุรกีเป็นเมืองบ้านเกิดของ Fade นั้นเป็นความคิดที่เข้าท่ามาก ๆ เลย เนื่องจากเมื่อองค์ประกอบต่าง ๆ ได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เราก็ได้พบว่ามันมีความสอดคล้องกันทางวัฒนธรรมในหลาย ๆ ด้านเลย” Clements กล่าว “เราร่วมมือกับเหล่าพนักงาน Riot ในสำนักงานที่ตุรกีของเราอย่างใกล้ชิดและพวกเขาก็ได้ให้ข้อมูลในส่วนของมุมมองในเชิงลึกมาอย่างอัดแน่นเพื่อให้เราเข้าถึงวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวตุรกี การอ่านและทำนายฝันนั้นเป็นแนวทางปฏิบัติที่มีมาอย่างช้านานในประเทศตุรกี และมันก็เข้ากันกับ Fade นักล่าค่าหัวที่ใช้พลังแห่งฝันร้ายผู้นี้ได้อย่างดีเลยทีเดียว”

เอาล่ะ เราไม่ได้จะบอกว่าผู้เล่นทุกคนในตุรกีจะเป็นแม่สาวสายดาร์คสุดโหดพร้อมเฮนน่าบนร่างกายที่จะใช้พลังแห่งฝันร้ายเพื่อไล่ล่าผู้คนในกลุ่มอาชญากรรมในอิสตันบูลหรอกนะ บางที คุณอาจจะเป็นสาวทาสแมวก็ได้

“อิสตันบูลนั้นเป็นเมืองหลวงแมวเหมียวของโลกเลยทีเดียว และความเป็นทาสแมวนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่แค่ในตุรกีอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่เป็นกันทั่วทุกมุมโลกเลย ใคร ๆ ต่างก็หลงรักเจ้าแมวทั้งหลาย!” Maystrenko กล่าว “เราต้องการเพิ่มเรื่องราวในชีวิตของเธอในส่วนนั้นออกมาให้ได้เห็น โดยที่ไม่ทำให้มันเหมือนกับว่าอยู่ ๆ เธอก็กลายมาเป็นเอเจนท์ทาสแมว”

“เราต้องการสร้างสิ่งมีชีวิตนี้จากสิ่งที่เธอรักและพบเจอ” เขากล่าวต่อ “ฝันร้ายของเธอผสมผสามเข้ากับสิ่งที่ไร้พิษภัยในชีวิตจริงเหล่านั้น แต่ในฝันร้ายของเธอ ทุก ๆ สิ่งจะกลายเป็นสิ่งที่จะพรากชีวิตคุณไปได้เลยทีเดียว เราพยายามที่จะสร้างออกมาเป็นนามธรรมเพื่อให้มันไม่ถูกมองออกในทันที ในแวบแรก มันจะดูเหมือนสิ่งมีชีวิตที่หลุดมาจากขุมนรกเลย แต่ในความจริงแล้ว มันก็เป็นแค่น้องแมวสองตัวแค่นั้นเอง”

สิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ได้ผสมผสานกันออกมาอย่างงดงามบนวิชวลเอฟเฟกต์ของเธอ

“ผมได้คิดเกี่ยวกับสไตล์งานศิลป์สำหรับ VFX อัลติเมทของ Fade รวมถึงวิธีที่ดีที่สุดในการแสดงตัวตนและรากเหง้าของเธออย่างหนักเลย มันเริ่มที่ลวดลายในสไตล์เฮนน่าแบบเรียบ ๆ เลย แต่มันก็ดูยังไม่ตรงกับที่คิดสักเท่าไหร่ มันดูล้าสมัยเอามาก ๆ มันเลยดูคล้าย ๆ กับภาพวอลเปเปอร์เลย” Guillermo “Giggy” la O’ ศิลปิน VFX อธิบายไว้ “มันมีเครื่องรางรูปดวงตาอยู่ในเอฟเฟกต์นี้ด้วย คุณจะเห็นว่ามีดวงตาอยู่เยอะแยะไปหมด แต่บางอันก็คือตัว Fade เองนั่นล่ะ และเจ้าเหมียว Prowler ของเธอก็อยู่ในนี้ด้วยนะ ผมเอาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เข้ามารวมกันพร้อมกับใช้ลวดลายของเฮนน่าเข้ามาเสริมด้วย มันจะได้ดูฮาร์ดคอร์น้อยลงและมีความละมุนมากขึ้น”

และถ้าหากว่าแมวที่มีอยู่ยังไม่พอสำหรับคุณอีกล่ะก็ ได้เลย ที่ด้านใต้รองเท้าบูทของเธอก็มีเท้าแมวอีกด้วยนะ

และนั่นก็คือความงดงามในสายดาร์คที่เต็มไปด้วยฝันร้ายทั้งหมดของเธอ: Fade มุ่งมั่น รวบรัด ตามหลอกหลอน มันก็ไม่แปลกที่จะมองนักล่าค่าหัวที่ใช้พลังที่ดูชั่วร้ายและน่าหวาดกลัวผู้นี้ว่าเป็นผู้ที่มีเจตนาที่ชั่วร้าย แต่เธอเป็นเช่นนั้นจริง ๆ งั้นหรือ?

“เมื่อผู้คนมองมาที่ Fade แล้วถามผมว่าเธอชั่วร้ายหรือเปล่า ผมค่อนข้างจะไม่พอใจกับคำถามแบบนั้นเลย” Goscicki อธิบายไว้ “การที่เกิดมาในแวดวงเมทัล ผมคิดว่ามันมักจะมีแนวคิดการเหมารวมที่ว่าแวดวงนี้มันมีแต่พวกสมองทึบ น่าขยะแขยง น่าหวาดกลัวอยู่ แต่เมื่อคุณได้เข้าไปอยู่ในแวดวงนั้นแล้ว คุณจะรู้ว่าทุกคนก็เป็นแค่กลุ่มคนชอบความเฮฮาที่ไร้พิษภัย พวกเขาแค่เลือกที่จะแสดงตัวตนออกมาแตกต่างจากกรอบที่สังคมได้กำหนดขึ้นมาก็แค่นั้น”

Goscicki ว่าต่อ “ผมคิดว่า Fade นั้นเป็นตัวอย่างที่ดีเลยสำหรับที่ว่าสิ่งที่ได้เห็นจากภายนอกในครั้งแรกนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงที่อยู่ภายในตัวคุณได้เสมอไป ผมแค่หวังว่าผู้เล่นจะได้เห็นตัวตนอีกด้านหนึ่งของเธอด้วยเช่นกัน”