Vanguard ทุบสถิติ ‘การแบนต่อวินาที
สวัสดีทุกคนที่แวะเข้ามานะครับ ผม Phillip “mirageofpenguins” Koskinas ผู้ป้องกันการโกงผ่านข้อมูลจากทีม Vanguard ของ Riot ครับ ในเดือนที่ผ่านมา เราพบว่ามีรายงานจาก VALORANT เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะในภูมิภาคยอดนิยมอย่างบราซิล ดังนั้นเราจึงอยากจะมาอัปเดตข้อมูลในแต่ละภูมิภาคแบบสั้น ๆ เกี่ยวกับสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นของเรากับเหล่าคนโกงซึ่งดูเหมือนจะไม่มีวันพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นได้
รายงานสถานะ
ก่อนอื่นเลยคือ คุณไม่ได้คิดไปเองหรอก เพราะว่ามีคนโกงเพิ่มขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้อย่างแน่นอน แต่เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าจำนวนคนโกงจะกลับมาอยู่ในระดับที่ “เหมาะสม” อย่างรวดเร็
ช่วงวันหยุดของ Riot ทำให้กระบวนการปล่อยตัวของเราหยุดชะงัก เราจึงไม่อาจส่งอัปเดตใหม่หรือการปรับแก้ไขเร่งด่วนให้กับผู้เล่นได้ ผู้พัฒนาโปรแกรมโกงได้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าพวกเขายินดีที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ให้เต็มที่ และเมื่อไม่มีระบบตรวจจับใหม่เป็นประจำให้ต้องจัดการ แม้แต่คนโกงทั่วไปเองก็อาจทำลายสมดุลของ FPS แนวกลยุทธ์อย่าง VALORANT ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโปรแกรมโกงง่าย ๆ อย่าง Triggerbot ก็อาจสร้างข้อได้เปรียบมหาศาลได้ ดังนั้น ในช่วงที่ศักยภาพของเราลดลง คนโกงที่ไม่ได้ถูกตรวจพบทันทีก็เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ คล้ายกับเชื้อโรคที่ไร้สมองนั่นแหละ
(สีแดง = เอเชียแปซิฟิก, สีส้ม = บราซิล, สีเขียว = ยุโรป, สีม่วง = เกาหลี, สีทอง = ละตินอเมริกา, สีน้ำเงิน = อเมริกาเหนือ)
ด้านบนคือเปอร์เซ็นต์ของเกม Ranked ของ VALORANT ที่มีคนโกง โดยแบ่งตามภูมิภาค สิ่งที่น่าสนใจคือยอดที่พุ่งสูงขึ้นนั้นแทบจะตรงกับการหยุดปล่อยโค้ดในช่วงวันหยุดของ Riot และแน่นอนว่าเราจะอ่อนแอที่สุดเมื่อไม่อาจปล่อยการตรวจจับใหม่ ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรากลับมาแล้วและโค้ดก็กลับมาทำงานอย่างเต็มที่อีกครั้ง ทีมกำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมระบบป้องกันการโกงอย่างเต็มรูปแบบด้วยความรักและความมุ่งมั่น โดยการลดเปอร์เซ็นต์ของเกม Ranked ที่มีคนโกงให้กลับมาอยู่ต่ำกว่า 1% ทั่วโลก เรามองในแง่ดีว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ต่อไปอีกหลายเดือน และในอนาคต เราจะพยายามวางแผนอัปเดต “แบบเซอร์ไพรส์” ไว้ล่วงหน้าสำหรับคนโกงในช่วงหยุดพัก เพื่อให้พวกนั้นโกงแบบง่าย ๆ ไม่ได้อีกต่อไป (ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาเท่าใดก็ตาม)
ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน และคุณคงตกใจเมื่อได้รู้ว่าบราซิลเคยมีเกม Ranked ที่มีคนโกงถึง 10% เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ
เกิดอะไรขึ้นกับบราซิลน่ะเหรอ?
เนื่องจาก Vanguard ทำให้การโกงโดยใช้หน่วยความจำ “ภายใน” เป็นไปได้ยากขึ้น คนโกงในบราซิลจึงหันมาพัฒนารูปแบบการโกงที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคซึ่งมีชื่อเรียกอันสวยหรูว่า “Pixelbot” (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Colorbot) แทน สำหรับคนที่มีคุณธรรมสูงส่งและหน้าตาดีแบบเรา ๆ นั้น Pixelbot ถือเป็นการโกงสำหรับพวกอ่อนหัด ลองนึกภาพแอปพลิเคชัน CV (คอมพิวเตอร์วิทัศน์) ที่อ่านหน้าจอและใช้ตัวจำแนกภาพพื้นฐานกับแต่ละเฟรม และช่วยให้ระบุโครงร่างหรือศีรษะของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้วิธีการที่ยังไม่ได้เปิดเผยในที่นี้เพื่อส่งอินพุตของเมาส์ ซึ่งจะ “ปรับ” ทิศทางในเกมของคนโกงไปยังเป้าหมายที่ตรวจพบได้อย่างว่องไว เหตุผลที่คนโกงต้องการ “วิธีการ” ในการขยับเมาส์ก็เพราะว่า Vanguard ปฏิเสธอินพุตจากอุปกรณ์ต่อพ่วงเสริมของคุณอยู่แล้ว และเหตุผลที่ผมไม่แชร์วิธีดังกล่าวในส่วนก็เป็นเพราะว่านี่ไม่ใช่บทช่วยสอนเกี่ยวกับวิธีการที่เร็วที่สุดในการโดนแบนยังไงล่ะ
เรื่องนี้อาจฟังดูไร้สาระสำหรับคนอย่างเรา ๆ ที่เล็งแม่นอยู่แล้ว แต่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าคนโกงไม่มีทักษะที่เด่นชัดเลยแม้แต่น้อย (ไม่งั้นพวกเขาคงใช้ทักษะนั้นไปแล้ว) ดังนั้นแม้ว่าการอ่านหน้าจออาจไม่คุ้มค่ามากพอกับราคาที่สูงลิ่ว (แบบการโกง DMA ส่วนตัว) แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่คนโกงต้องการอย่างแน่นอน การโกงเหล่านี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่โชคดีที่ตรวจจับได้ง่ายพอ ๆ กับการติดตั้ง และเราก็กำจัดการโกงเกือบทั้งหมดนี้ได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้แปลว่าการเล่นเกมกับพวกกากที่เล็งไม่เป็นแต่อยากทำเก่งนั้นเป็นเรื่องสนุก เราทราบดีว่าเรื่องนี้สร้างความหงุดหงิดให้กับเพื่อน ๆ ของเราในบราซิลเป็นอย่างมาก และเราก็เข้าใจความรู้สึกของการแพ้ให้กับคนโกงเป็นอย่างดี เราเองก็รังเกียจคนโกงเช่นเดียวกัน เพราะแบบนั้นเราถึงเข้ามาจัดการเรื่องระบบป้องกันการโกงตั้งแต่แรก โปรดวางใจว่าเรากำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่ และเราจะสู้ต่อไปเพื่อปกป้องสิทธิ์ของคุณในการเล่นเกมที่ปราศจากผู้เล่นไม่อยากเล่นเกมอย่างยุติธรรม มันอาจจะยากลำบากสักหน่อยเป็นครั้งคราว แต่เราจะไม่ยอมแพ้โดยเด็ดขาด
ภูมิภาคอื่น ๆ เป็นยังไงบ้างน่ะเหรอ?
เอาล่ะ มาสรุปแบบเร็ว ๆ กัน
- KR (เกาหลี) กำหนดให้ใช้เลขประจําตัวประชาชนในการเล่นเกม ซึ่งช่วยให้แบนคนโกงได้ง่าย ๆ ตั้งแต่ “ต้นทาง” วิธีนี้มีประสิทธิภาพอย่างมากในการกันคนโกงออกจากเกมได้นานขึ้น เนื่องจากคนโกงต้องหาซื้อเลขประจําตัวประชาชนใหม่เพื่อเล่นเกมต่อ ทำให้การแบนมีผลยาวนาน
- ในทำนองเดียวกัน AP (เอเชียแปซิฟิก) ก็พบคนโกงจาก CN (จีน) จำนวนมากที่หลีกเลี่ยงข้อกำหนดการระบุตัวตนของเซิร์ฟเวอร์ประเทศตัวเองโดยใช้ VPN เพื่อเล่นบนเซิร์ฟเวอร์อื่น เราจะดำเนินการปรับปรุงการกำหนดขอบเขตเสมือนสำหรับบริการ Vanguard ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้คนโกงเข้าถึงเซสชันระบบป้องกันการโกงที่ถูกต้องได้ยากขึ้น
- ตามที่คาดการณ์ไว้ NA (อเมริกาเหนือ) ได้เปลี่ยนมาใช้การโกงฮาร์ดแวร์ DMA ที่มีราคาสูง ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้ได้ระบบที่สมบูรณ์ ถึงจะโฆษณาว่า “ตรวจไม่พบ” แต่ช่วงเวลาอันแสนสุขของเราก็คือการได้เห็นปฏิกิริยาจากช่อง Discord ของเหล่าคนโกงเวลาที่เราปล่อยแบนเวฟรายเดือนนั่นเอง
- น่าตลกดีที่ EU (ยุโรป) ได้หันกลับไปใช้การโกงระดับเคอร์เนลแบบหมุนเวียนซึ่งจะใช้ไดรเวอร์ที่มีใบรับรองที่ถูกขโมยมาหรือปลอมแปลงสำหรับ “ธุรกิจ” ที่พยายามทำให้ตัวเองดูถูกกฎหมาย เช่น “อุปกรณ์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำของ Gary” การโกงเหล่านี้มันช่างโจ่งแจ้งซะเหลือเกิน การตรวจจับการโกงเหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราเลยแม้แต่น้อย
- ต้องขอชื่นชม (ประชด) กับ TR (ตุรกี) ซึ่งมีร้านอินเทอร์เน็ตมากมายที่ติดตั้งโปรแกรมโกงไว้ล่วงหน้า โดยอาจจะเป็นฝีมือของลูกค้าเก่าหรือเจ้าของร้านเองก็เป็นได้ นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ารำคาญใจอย่างยิ่ง เนื่องจากร้านอินเทอร์เน็ตเหล่านี้อยู่ในรายชื่ออนุญาตผ่านเลเยอร์การแบนอุปกรณ์ของเรา ทำให้คนโกงไม่ต้องรับผลที่ตามมา ขณะนี้เราเริ่มเพิกถอนการยกเว้นนี้สำหรับสถานที่ที่กระทำความผิดซ้ำซ้อนแล้ว
- LA (ละตินอเมริกา) ยังคงเป็นภูมิภาคที่นิยมใช้ Pixelbot อยู่ แต่มีข้อจำกัดที่สำคัญก็คือฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นยังไม่แพร่หลายมากพอที่จะทำให้ตรวจจับไม่ได้ในระยะยาว เราจึงไม่พบปัญหาอะไรมากนักในขณะนี้
ทำไมถึงยังมีคนโกงอยู่อีกน่ะเหรอ?
เราตั้งเป้าที่จะทำให้การโกงนั้นยากลำบากและมีค่าใช้จ่ายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทั้งในแง่การดำเนินการและทางการเงิน แต่ถ้าเกมมันดี ยังไงก็ย่อมดึงดูดคนโกงเข้ามาอยู่ดี ระบบป้องกันการโกงอย่าง Vanguard ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่คิดจะโกงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นพวกที่ดื้อไม่ยอมแพ้ซักทีก็คือคนโกงนั่นเอง โดยพวกเขาจะเข้าไปอยู่ในคอมมูนิตี้ของคนโกงด้วยกัน และก็เล่น VALORANT ด้วยการโกงเท่านั้น มันจึงกลายเป็นความเสพติด และเหล่าคนโกงจะยอมทุ่มเงินหลายพันดอลลาร์กับบัญชีและฮาร์ดแวร์ เพียงเพื่อให้ได้สัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจจากการแสร้งทำเป็นว่าตัวเองเล่นเก่ง VALORANT เป็นเกมเล่นฟรีที่แทบไม่มีอุปสรรคในการเข้าเล่นเลย และไม่มีการแบน “ถาวร” อย่างแท้จริง ถึงจะมีการระบุตัวตนฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดในจักรวาลนี้ให้ใช้งาน แต่ Vanguard ก็กันคนโกงผู้มุ่งมั่นออกไปได้แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งคนโกงเหล่านั้นก็จะหาทางกลับมาจนได้อยู่ดี
สิ่งที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือเราต้องปล่อยให้คนโกงเหล่านั้นกลับเข้ามาอีกครั้ง เวลาที่เรา “บล็อก” วิธีการโกงในทันที ในทางเทคนิคแล้ว นั่นเท่ากับเรามอบพื้นที่ให้คนโกงได้ทดสอบการโกงแบบ A/B ในทันทีจนกว่าพวกเขาจะพบวิธีการที่หลบเลี่ยงการตรวจจับในเลเยอร์นั้นได้ น่าเสียดายที่เหล่าคนโกงไม่มีชีวิตดี ๆ ให้ใช้เหมือนคนอื่นเขา ดังนั้นแม้ว่าจะดูขัดกับสามัญสำนึก แต่หนทางที่ดีที่สุดเพื่อให้ตรวจจับคนโกงได้อยู่เสมอ ก็คือการทำให้พวกเขาคิดหาวิธีโกงใหม่ ๆ ได้ช้าลงด้วยการตอบโต้แบบคลุมเครือและเชื่องช้า เราต้องทำให้คนโกงเสียเวลาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในแต่ละครั้ง ไม่งั้นเราก็จะหมดกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว
ท้ายที่สุดแล้ว การเจอกับคนโกงนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราจะแบนพวกเขาซ้ำ ๆ จนกว่าคนโกงเหล่านั้นจะใจกล้าพอที่จะลบโปรแกรมโกงด้วยตัวเอง และในส่วนของการแบน…
(สีแดง = โดยเจ้าหน้าที่, สีส้ม = พฤติกรรม, สีเหลือง = เกาะคนโกง, สีเขียว = โกง, สีน้ำเงิน = ฮาร์ดแวร์, สีม่วง = การดัดแปลง)
ด้านบนคือไทม์ไลน์ของการแบนโดย VALORANT x Vanguard ทั้งหมดในช่วง 120 วันที่ผ่านมา โดยแบ่งตามระบบที่ตรวจพบ
- “โดยเจ้าหน้าที่” คือการแบนที่บรรจงเลือกสรรและจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ Vanguard ของเรา
- “พฤติกรรม” หมายถึงการระงับ ML (หรือเรียกอีกอย่างว่าระบบป้องกันการโกง “ฝั่งเซิร์ฟเวอร์”) ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับแฮกเกอร์แบบสุดโต่ง
- “เกาะคนโกง” คือผู้เล่นที่จงใจเข้าคิวเล่นกับคนโกงเพื่อไต่แรงค์ (Vanguard จะลงโทษแบบหมู่)
- “โกง” คือบัญชีที่ตรวจพบเครื่องมือโกงอย่างชัดเจน ซึ่งมักจะหลีกเลี่ยงการระงับฮาร์ดแวร์มาได้
- “ฮาร์ดแวร์” เป็นผู้กระทำผิดซ้ำซ้อนที่พยายามหลีกเลี่ยงการระบุตัวตนฮาร์ดแวร์และล้มเหลวอย่างน่าอดสู
- “ดัดแปลง” คือการตรวจจับแบบถ้วนหน้าสำหรับคนโกงที่ไปยุ่งวุ่นวายกับ Vanguard ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างชัดเจน
ในช่วงสุดสัปดาห์ระหว่างวันที่ 10 ถึง 13 มกราคม เราพบว่ามีอัตราการแบนผู้ใช้อย่างต่อเนื่องสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีการระงับการใช้งานเกือบ 7 ครั้งต่อนาที คงมีคนน้ำตาตกในกันไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดสำหรับระบบป้องกันการโกงคือความเร็วในการตรวจจับ เราจะวัดผลโดยใช้สถิติที่เรียกว่า “ระยะเวลาในการดำเนินการ” หรือจำนวนเกมที่คนโกงเล่นได้ก่อนที่บัญชีของพวกเขาจะถูกแบนหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน ปี 2024 เป็นปีที่เราทำได้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 โดยคนโกงโดยเฉลี่ยนั้นเล่นเกมจบได้แค่ 6 เกมเท่านั้น และถึงเราจะเห็นด้วยว่าแค่ 6 เกมก็ยังมากเกินไป แต่นี่ก็ถือว่าเร็วที่สุดที่เราจะทำได้แล้วด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน
แล้วผู้เล่นที่แพ้ให้กับคนโกงล่ะ?
ปัญหาหนึ่งของการแบนทุกคนอยู่ตลอดเวลาก็คือ คนโกงจะค่อย ๆ เกิดพฤติกรรมที่เรียกว่า “การโกงแบบสุดโต่ง” คนโกงรู้ตัวแล้วว่าไม่อาจหลบหนีการตรวจจับได้ พวกเขาจึงโกงให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลาที่เล่นได้ก่อนที่จะถูกแบน เหมือนกับเด็กที่โวยวายเพราะไม่ได้ดั่งใจ ส่วนเราก็เป็นพ่อแม่ที่ไม่รู้จะทำยังไงดี ปัญหาที่แท้จริงเพียงข้อเดียวก็คือ มันทำให้เกิดความเสียหายมากมายตามมา
ดังนั้นถ้าเราไม่อาจเร็วไปกว่านี้ได้ และคนโกงก็ไม่มีวันหายไป งั้นเราจะทำอะไรได้อีกบ้าง? ตั้งแต่ Act 2 เป็นต้นไป การแบนทุกครั้งจะมาพร้อมกับ “ระบบโรลแบ็ก Ranked” ซึ่งก็เป็นไปตามชื่อ ฟีเจอร์นี้จะคืน RR ที่เสียไปให้กับผู้เล่นทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากคนโกง เราจะไม่ลบ RR ใด ๆ ที่คุณได้รับมาโดยบังเอิญ (นั่นคือ ระบบจัดให้คุณอยู่ในทีมของคนโกง) แต่ถ้าคุณจงใจเข้าคิวเล่นกับคนโกง เราจะแบนคุณข้อหาเกาะคนโกง
นอกจากนี้ เรายังจะปรับปรุงระบบการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการรายงานคนโกงสำเร็จอีกด้วย ในขณะนี้ ระบบยังคงมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง และคุณจะได้รับฟีดแบ็กเฉพาะในกรณีที่คุณล็อกอินอยู่เมื่อคนโกงที่คุณรายงานนั้นถูกแบนเท่านั้น แต่ในเร็ว ๆ นี้ เราจะเปลี่ยนมาใช้ระบบ “กล่องจดหมาย” ซึ่งระบบจะต้อนรับคุณอย่างอบอุ่นด้วยรายชื่อคนโกงทั้งหมดที่คุณรายงานอย่างถูกต้องทุกครั้งที่ล็อกอิน วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความแม่นยำของรายงานเมื่อเวลาผ่านไป (โดยแจ้งให้คุณทราบเวลาที่คุณทำถูกต้อง) และทำให้เราตรวจจับการโกงใหม่ได้เร็วขึ้น
แล้วในส่วนของโฆษณาการโกงบน TikTok ล่ะ?
โชคดีที่ส่วนใหญ่เป็นแค่ลิงก์แนะนำที่หลอกลวงซึ่งใช้คลิปที่บันทึกไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ดูเหมือนว่ายังไม่ถูกแบน ซึ่งโดยปกติแล้วคุณจะยืนยันได้ด้วยการค้นหาบัญชีที่พวกนั้นเล่นอยู่ (หรือแค่ดูลายน้ำเวอร์ชันไคลเอนต์ที่มุมขวาล่างก็ยังได้ 555)
อย่างไรก็ตาม ผู้พัฒนาโปรแกรมโกง “หัวหมอ” บางรายได้เริ่มใช้ประโยชน์จากการไม่มีการควบคุมดูแลสตรีมบนแพลตฟอร์ม โดยโน้มน้าวให้ผู้ใช้ช่วยโฆษณาโปรแกรมโกงเพื่อแลกกับคำสัญญาเก๊ ๆ เกี่ยวกับการสมัครสมาชิก “ฟรี” ในอนาคต น่าเสียดายสำหรับทุกฝ่าย เพราะนี่เป็นแค่การโกงแบบเดิม ๆ ภายใต้ชื่อใหม่ที่ถูกตรวจพบอย่างถาวรไปแล้ว และผู้พัฒนาโปรแกรมโกงกำลังใช้ประโยชน์จากเวลาอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ก่อนที่จะโดนแบน เพื่อขายการสมัครสมาชิกให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะเททุกคนและหายตัวเข้ากลีบเมฆไป เราไม่ได้วางแผนอะไรเลยสักนิดเดียว และสิ่งเดียวที่เราบอกได้ก็คือ อย่าดาวน์โหลดโปรแกรมโกงพวกนั้นเด็ดขาดนอกเสียจากคุณจะอยากโดนแบน
สรุป
คนโกงมักจะพยายามหาทางต่อต้าน Vanguard อยู่เสมอ เพราะแบบนั้นเราจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้ เกมแมวจับหนูนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นเกมที่เราพร้อมเล่นอยู่เสมอ เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อขับไล่คนโกงทุกคนออกไปจากเกม และเราขอยืนกรานหัวเด็ดตีนขาดว่าคอมมูนิตี้นี้ไม่ต้อนรับคุณถ้าคุณไม่อยากเล่นอย่างยุติธรรม
ขอขอบคุณที่อ่าน เล่น และกดปุ่มรายงานกันเข้ามานะครับ มันทำให้ผมมีกำลังใจทำงานนี้ต่อไปได้ แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าครับ